วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553


วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น

วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น
การบ้านบทที่ 1 ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2553

1. จงสรุปแนวคิดในการจัดการข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบัน
ตอบ     ในอดีตการจัดเก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นแฟ้มข้อมูล  ข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน การขยายระบบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงการจัดเก็บข้อมูลด้วย ซึ่งการเก็บข้อมูล      แบบเดิมทำให้เกิดปัญหาต่างๆ  ในปัจจุบันนี้ข้อมูลต่างๆ ได้ถูกจัดการไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยเก็บไว้ในสิ่งที่เรียกว่า แฟ้ม (File)เป็นการจัดเก็บเอกสารหรือข้อมูลต่าง ๆไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยจัดเก็บแยกเป็นแฟ้มข้อมูลตามประเภทของงาน หรือแยกตามการปฏิบัติงาน เช่น แฟ้มข้อมูลประวัติพนักงาน แฟ้มข้อมูลลูกค้าและแฟ้มข้อมูลการจ่ายเงินเดือน  เป็นต้น  
2. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ          - บิต (Bit) เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ สถานะคือ 0 และ 1
                - ไบต์ (Byte) เป็นการนำจำนวนบิตมารวมกันเป็นไบต์ ได้แก่ ตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์พิเศษ 1 ตัว เช่น 0, 1, a เป็นต้น โดยที่ 1 ไบต์มีค่าเท่ากับ 8 บิต
                - ฟิลด์ (Field) เป็นการนำไบต์หลายๆ ตัวมารวมกันเป็นฟิลด์เพื่อให้เกิดความหมาย เช่น Salary เป็นฟิลด์ที่เก็บเงินเดือนพนักงานเป็นต้น
                - เรคคอร์ด (Record) เป็นกลุ่มของฟิลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน ในหนึ่งเรคคอร์ดจะประกอบด้วยฟิลด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันรวมกันเป็นชุด เช่น เรคคอร์ดของประวัตินักศึกษา ประกอบด้วยฟิลด์รหัสนักศึกษา
ชื่อ-สกุล วันเกิด ที่อยู่ จังหวัด เบอร์โทรศัพท์ ชื่อที่อยู่ผู้ปกครองเป็นต้น
                - ไฟล์ (File) หรือ แฟ้มข้อมูล (Data File)เป็นกลุ่มของเรคคอร์ดที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น ในแฟ้มประวัตินักศึกษาจะประกอบด้วยเรคคอร์ดของนักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในวิทยาลัย
         
3. การเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูลมีข้อจำกัดอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ        -  ข้อมูลมีความซ้ำซ้อน(duplication of data/data redundancy) สืบเนื่องจากข้อมูลถูกเก็บแยกจากกัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมความซ้ำซ้อนข้อมูลได้  ทำให้สูญเสียพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้นและก่อให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินการกับข้อมูล 3 ลักษณะ ได้แก่
 -   ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (separation and isolation of data)
           เมื่อข้อมูลต่าง ๆ    ถูกเก็บกันไว้คนละไฟล์ หากต้องการนำข้อมูลต่าง ๆ มาสร้างเป็นรายงายโปรแกรมเมอร์ต้องสร้างไฟล์ชั่วคราว(Temporary file)ขึ้นมา เพื่อดึงข้อมูลต่าง ๆ จากไฟล์ต่าง ๆ มารวมกันก่อน แล้วค่อยสร้างเป็นรายงาน
-   ข้อมูลมีความขึ้นต่อกัน (data dependence)
          เนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพและการจัดเก็บข้อมูลถูกสร้างโดยการเขียนโปรแกรมประยุกต์(Application program) ดังนั้นหากต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูล เช่น ชื่อของพนักงาน จากเดิม 20 ตัวอักษร เป็น 30 ตัวอักษร มีขั้นตอนการทำงานดังนี้
 1. เปิดไฟล์หลักพนักงานเพื่ออ่านข้อมูล
2. เปิดไฟล์ชั่วคราวที่มีโครงสร้างคล้ายไฟล์หลัก แต่ปรับโครงสร้างของชื่อพนักงาน จาก   20 ตัวอักษร        
    เป็น 30 ตัวอักษร
 3. อ่านข้อมูลจากไฟล์หลัก และย้ายไปเก็บไว้ในไฟล์ชั่วคราว จนกระทั่งครบทุกรายการ
 4. ลบไฟล์หลักทิ้ง
 5. เปลี่ยนชื่อไฟล์ชั่วครามให้ชื่อเดียวกับไฟล์หลัก
-   มีรูปแบบที่ไม่ตรงกัน (incompatible file formats)
         โครงสร้างข้อมูลจะขึ้นอยู่กับภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมประยุกต์ ถ้าแต่ละฝ่ายใช้ภาษาในการเขียนต่างๆกัน ก็อาจทำให้โครงสร้างข้อมูลของแฟ้มไม่ตรงกัน ทำให้ไม่สามารถนำไฟล์ข้อมูลมาใช้ร่วมกันได้
-   รายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อย่างจำกัด (fixed queries/proliferation of application programs)
       ระบบแฟ้มข้อมูล มีความขึ้นกับโปรแกรมประยุกต์ ข้อมูลหรือรายงานต่าง ๆ จะถูกกำหนดรูปแบบตายตัวในโปรแกรมแล้ว ดังนั้นหากต้องการรายงานใหม่ จะต้องให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่ ทำให้เสียค่าใช้จ่าย

4. ฐา     4.ฐานข้อมูลคืออะไร และยกตัวอย่างฐานข้อมูลที่นักศึกษารู้จักมาสองระบบ
ตอบ     ตอบ    ฐานข้อมูล  ประกอบด้วยรายละเอียดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน  ซึ่งถูกนำมาใช้ในงานด้านต่าง ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ให้เป็นศูนย์กลางอย่างมีระบบซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันได้ เพื่อประโยชน์ในการจัดการและการเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น  ด้านธนาคาร   จะมีฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเงินฝาก  ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้อย่างมีระบบ  และมีความสัมพันธ์กัน เพื่อประโยชน์ในการจัดการและรียกใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5.         5. ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลอย่างไร
ตอบ      ตอบ 1. สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้
      2. หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้
      3. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
      4. สามารถรักษาความถูกต้องเชื่อถือได้ของข้อมูล
      5. สามารถกำหนดความเป็นมาตรฐานเดียวกันของข้อมูลได้
      6. สามารถกำหนดระบบความปลอดภัยของข้อมูลได้
                         
6.         6.ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร มีส่วนสำคัญต่อฐานข้อมูลอย่างไร
ตอบ     ตอบ    ระบบจัดการฐานข้อมูล หรือ Database Management System : DBMS คือ ซอฟท์แวร์โปรแกรมหรือกลุ่มของซอฟท์แวร์โปรแกรมที่ทำหน้าที่เข้าถึงและจัดการกับข้อมูลจำนวนมากที่มีความสัมพันธ์กัน เปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างผู้ใช้งานกับฐานข้อมูลและระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์
             ความสำคัญของเรื่องระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของComputer-Based Information System (CBIS)ซึ่งเป็นแนวคิดรวบรวมข้อมูลและโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ มาทำงานร่วมกันได้โดยมีเทคนิคการดึงและจัดเก็บข้อมูลที่ซับซ้อน และสามารถแสดงความสัมพันธ์ของระเบียนต่างๆ ภายใต้แฟ้มข้อมูลได้ ทั้งนี้ยังทำหน้าที่จัดระเบียบแฟ้มทางกายภาพ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลในรูปแบบต่างๆ การบำรุงรักษาฐานข้อมูลให้อิสระจากโปรแกรมประยุกต์ ความปลอดภัย และการกู้แฟ้มข้อมูลอีกด้วย

7. ยก   7.ตัวอย่าง ฐานข้อมูลกับการดำเนินชีวิตประวัน
          ตอบ  การยืม-คืนหนังสือที่สำนักวิทยบริการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น